วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

บทที่ 7

บทที่ 7
                        เทคโนโลยีการจัดการสารสนเทศและองค์ความรู้


ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับที่มาขององค์ความรู้
1. ความหมายและที่มาขององค์ความรู้
1.1ข้อมูล (data) เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกบันทึกลงไป และยังไม่ได้
นำมาแปลความหมาย
1.2 สารสนเทศ (information) เป็นข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง
วิเคราะห์ หรือสังเคราะห์ ให้ข้อมูลเกิดการตกผลึก มีการแปลง
รูปของบันทึกและข้อมูลให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจมากขึ้น
1.3 ความรู้ (knowledge) หมายถึง สิ่งที่สั่งสมจากปฏิบัติ 
ประสบการณ์ ปรากฏการณ์ซึ่งได้ยิน ได้ฟัง 
1.4 ปัญญา (wisdom) เป็นความรู้ที่มีอยู่นำมาคิดหรือต่อยอด
ให้เกิดคุณค่า หรือคุณประโยชน์มากขึ้น


2.ความหมายของการจัดการสารสนเทศ
2.1การนำเข้าข้อมูล (input) เป็นขั้นตอนแรกของการประมวลผลข้อมูลเป็นสารสนเทศ ประกอบด้วย 4 
ขั้นตอน ดังนี้
2.1.1 การเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1.2 การจัดระเบียบข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ มีกระบวนการดังนี้
  1)การประเมินคุณค่าของข้อมูล
  2)การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
  3)การตรวจแก้ข้อมูล
  4)การนำเข้าข้อมูล
2.2 การประมวลผลข้อมูล (data processing) เป็นการจัด
ดำเนินการทางสถิติหรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่นำเข้าสู่
กระบวนการให้ออกมาเป็นผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือเป็นการสร้าง
สารสนเทศใหม่จากสารสนเทศเก่าที่นำเข้าสู่กระบวนการ
ประมวลผล ซึ่งทำได้หลายวิธีดังนี้
2.2.1 การเรียงลำดับ(arranging)
2.2.2 การจัดหมวดหมู่ข้อมูล (classify)
2.2.3 การคำนวณ (calculation)
2.2.4 การสรุป (summarizing)
2.2.5 การวิเคราะห์ข้อมูล (data analysis)
2.3 การจัดเก็บสารสนเทศ (storing) สารสนเทศที่ได้จากการประมวลผลจะถูกจัดเก็บไว้ในแหล่งจัด
เก็บ เพื่อการค้นสืบมาใช้ต่อไป
2.3.1 การจัดเก็บสารสนเทศไว้ที่แหล่งเดียวกัน  
2.3.2 การจัดเก็บสารสนเทศที่เป็นผลผลิตจากกระบวนการประมวลผลไว้ในสื่อจัดเก็บประเภทต่างๆ
2.3.3 การสืบค้นเพื่อใช้งาน
2.4 การส่งออกหรือการแสดงผล (output) เป็นกระบวนการของการประมวลผลไปสู่บุคคลที่ต้องการ
นำสารสนเทศไปใช้ในรูปแบบที่เหมาะสม 
2.5 การสื่อสารสารสนเทศ (information communicating) เป็นการส่งสารสนเทศไปยังบุคคลอื่น
หรือสถานที่อื่นโดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมในการกระจายสารสนเทศ
ไปสู่ผู้ใช้ตามต้องการ
3. ความหมายของการความรู้
การจัดการความรู้เป็นการดำเนินการอย่างน้อย 6 ประการต่อความรู้ ได้แก่
1) การกำหนดความรู้หลักที่จำเป็น
2) การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ
3) การปรับปรุง ดัดแปลง
4) การประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการงานของตน
5) การนำประสบการณ์จากการทำงานมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 
6) การจัดบันทึก

ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศในองค์กรส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีการจำแนกระบบตามการให้การสนับสนุนของระบบ
สารสนเทศได้ 5 ประเภท ดังนี้
1.ระบบประมวลผลรายการ (Transaction Processing Systems : TPS)
1.1 ระบบประมวลผลรายการมักมีลักษณะดังนี้
 1.1.1 ข้อมูลมักจะมีจำนวนมาก เนื่องจากต้องรับข้อมูลที่เกิดขึ้นทุกวัน
 1.1.2 ต้องมีการประมวลผลข้อมูลเพื่อสรุปยอดต่างๆ เป็นประจำ
 1.1.3 ต้องมีความสามารถในการเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ดี
 1.1.4 ต้องมีความง่ายในการใช้งาน
 1.1.5 ระบบ TPS ถูกออกแบบให้มีความเที่ยงตรงสูง
1.2 หน้าที่ของระบบประมวลผลรายการมี 3 ประการ คือ
  1.2.1 การทำบัญชี (book keeping)
  1.2.2 การออกเอกสาร (document issuance)
  1.2.3 การทำรายการควบคุม (control reporting)



สถาปัตยกรรมระบบการจัดการความรู้
1. บริการโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure services) หมายถึง เทคโนโลยีพื้นฐานที่จำเป็นในการ
ประยุกต์กับการจัดการความรู้ มี 2 ประเภท คือ
  1.1 เทคโนโลยีที่สนับสนุนการจัดเก็บความรู้
  1.1.1 คลังข้อมูล
  1.1.2 แม่ข่ายความรู้
  1.2 เทคโนโลยีที่สนับสนุนการสื่อสาร
  1.2.1 เทคโนโลยีในการสื่อสารระหว่างพนักงาน
  1.2.2 เทคโนโลยีที่สนับสนุนความร่วมมือระหว่างพนักงาน
  1.2.3 เทคโนโลยีการจัดการทำงานของบุคลากร
2. บริการความรู้ (knowledge services) หมายถึง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการให้
บริการความรู้ เป้าหมายหลักของการจัดการความรู้มี 3 ด้าน ดังนี้
  2.1 การสร้างความรู้
  2.2 การแบ่งปันความรู้
  2.3 การใช้ความรู้ซ้ำ
3. บริการประสานผู้ใช้กับแหล่งความรู้เหลือแหล่งสารสนเทศ (presentation services)
การพัฒนาบริการประสานผู้ใช้กับแหล่งความรู้ หรือแหล่งสารสนเทศมี 2 ประเภท คือ
  3.1 บริการที่แสดงความเป็นส่วนบุคคลของผู้ใช้แต่ละคน
  3.2 ระบบที่ช่วยการมองเห็น

รูปแบบของเทคโนโลยีสารสนเทศกับกระบวนการจัดการความรู้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการรวบรวมและการจัดความรู้ที่ปรากฏ
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อรวบรวมและจัดการความรู้สามารถทำได้หลากลายรูปแบบดังนี้
  1.1 ระบบจัดการฐานข้อมูลสัมพันธ์
  1.2 ระบบจัดการเอกสาร

2. เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการสร้างความรู้

3. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเข้าถึงความรู้ที่ปรากฏ

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อเข้าถึงความรู้ที่ปรากฏมี 8 รูปแบบ ดังนี้

3.1 กรุ๊ปแวร์
3.2 อินเทอร์เน็ต
3.3 โปรแกรมค้นหา
3.4 อินทราเน็ต  
3.5 ไซต์ท่า
3.6 เครื่องมือการไหลของงาน
3.7 เครื่องมือการทำงานเสมือน
3.8 การเรียนรู้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

4. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการประยุกต์ใช้ความรู้

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ความรู้สามารถกระทำได้ดังนี้
4.1 เครื่องมือที่เชื่อมระหว่างผู้ใช้กับสารสนเทศ
4.2 ระบบสนับสนุนการปฏิบัติการ 
4.3 คลังข้อมูล
4.4 การทำเหมืองข้อมูล

ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในการจัดการ
ความรู้
การจัดการความรู้ขององค์กรโดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการจัดการความรู้ ทำให้เกิด
ประโยชน์ต่อระบบ และมีความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญขององค์กร ซึ่งมีปัจจัยสำคัญดังนี้
1. การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อจัดการความรู้
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในการจัดการความรู้ ทำให้เกิดการจัดการระบบสารสนเทศ
เพื่อใช้ในการจัดการองค์กรอย่างเหมาะสม ถูกต้อง ซึ่งต้องมีการควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศทำงาน
อย่างมีประสิทธิภาพ
การแบ่งเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในการจัดการความรู้ได้ 6 ประเด็น ดังนี้
1.1 งานเอกสารเวิร์ดโพรเซสเซอร์
1.2 งานอีบุ๊ก อีไลบรารี
1.3 ระบบฐานข้อมูล
1.4 เว็บ
1.5 อีเมล เอฟทีพี (FTP)
1.6 เว็บบล็อก (webblag)
 2. ประโยชน์ของการจัดการความรู้
  2.1 ป้องกันความรู้สูญหาย
  2.2 เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจจากประเภท คุณภาพ และความสะดวกในการเข้าถึงความรู้
  2.3 ความสามารถในการปรับตัว และความยืดหยุ่น
  2.4 ความได้เปรียบในการแข่งขัน
  2.5 พัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา
  2.6 ยกระดับผลิตภัณฑ์
  2.7 การบริหารลูกค้า
  2.8 การลงทุนทางทรัพยากรบุคคล


   The end 








สถาปัตยกรรมระบบการจัดการความรู้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น