ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
หมายถึง
เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทำหน้าที่เสมือนสมองกลใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ
ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์
ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์
1.1
การปฏิบัติงานอัตโนมัติ (self acting) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์
ในการประมวลผลข้อมูลตามลำดับคำสั่ง ได้อย่างถูกต้อง ต่อเนื่อง โดยอัตโนมัติ
ตามคำสั่งและขั้นตอนที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นผู้กำหนดไว้
1.2 ความเร็ว
(speed) เป็นความสามารถในการประมวลผลข้อมูลภายในเวลาที่สั้นที่สุด
ความเร็วในการประมวลผลจะเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์
ความเร็วในการประมวลผลจะถูกกำหนดโดยหน่วยประมวลผลในซีพียู
ซึ่งคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถประมวลผลได้มากกว่าล้านคำสั่งต่อวินาที
1.3
การจัดเก็บข้อมูล (storage) เป็นความสามารถในการเก็บข้อมูลในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถจัดเก็บได้เป็นจำนวนมากและสามารถเก็บได้เป็นระยะเวลานาน
1.4 ความน่าเชื่อถือ
(reliability) เป็นความสามารถที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคำสั่งและข้อมูล
เพื่อกำหนดความน่าเชื่อถือของคอมพิวเตอร์ นั่นคือ
ถ้าป้อนคำสั่งหรือใช้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ก็อาจจะได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร
1.5
ความถูกต้องแม่นยำ (accuracy)
เป็นความถูกต้องแม่นยำของการคำนวณของเครื่องคอมพิวเตอร์
1.6
การทำงานซ้ำ ๆ (repeatability) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถวนทำงานคำสั่งซ้ำๆ
ได้ ขึ้นกับโปรแกรมที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น
1.7 การติดต่อสื่อสาร
(communication) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถวนทำงานซ้ำๆ
ได้ ขึ้นกับโปรแกรมที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น
2. หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
2.1 มีการรับข้อมูลคำสั่งเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านหน่วยรับข้อมูล/คำสั่ง
2.2 ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยประมวลผลกลางเพื่อทำการประมวลผลตามคำสั่งที่ตั้งไว้
2.3 ในขณะที่ทำการประมวลผลหน่วยความจำหลักและทำหน้าที่เก็บคำสั่งต่างๆ
ในการประมวลผล
2.4 เมื่อประมวลผลเสร็จแล้ว
ผลลัพธ์จะถูกเก็บที่หน่วยความจำสำรอง
2.5 หน่วยแสดงผลทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผล
1. หน่วยรับข้อมูลเข้า (input unit)
เป็นอุปกรณ์ที่ทำทำหน้าที่รับข้อมูล/คำสั่ง
เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยรับข้อมูล ประกอบด้วย
1.1 อุปกรณ์รับคำสั่งจากผู้ใช้ เพื่อสั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
ได้แก่ เมาส์ (mouse) คีย์บอร์ด
(keyboard) เป็นต้น
1.2อุปกรณ์ที่นำเข้าข้อมูลจากภายนอกเข้ามาสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
เช่น ข้อมูลภาพ
ซึ่งอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลเหล่านี้อาจจะต้องทำการจัดซื้อเพิ่มเติมโดยผู้ใช้ต้องทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์เหล่านี้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์
จากนั้นทำการโอนย้ายข้อมูลเข้ามาเพื่อทำงานต่อไป
4. หน่วยแสดงผล
หน่วยแสดงผล (output
unit) ทำหน้าที่รับข้อมูลจากหน่วยความจำซึ่งผ่านการประมวลผลแล้วมาแสดงในรูปแบบต่าง
ๆ โดยอาศัยอุปกรณ์แสดงผล ดังนี้
4.1 จอภาพ (monitor) จอภาพเป็นอุปกรณ์แสดงผลที่ใช้ตลอดเวลาเมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์
จอภาพสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ได้แก่ จอแอลซีดี และ จอแอลอีดี
4.2 ลำโพง (speaker) เป็นอุปกรณ์แสดงข้อมูลที่เป็นเสียง
4.3 เครื่องพิมพ์ (printer)
เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่จำเป็นต้องหาซื้อเพิ่มเติม
ถ้าต้องการพิมพ์งานจากเอกสารต่าง ๆ
5. หน่วยติดต่อสื่อสาร
หน่วยติดต่อสื่อสาร (communication
unit) มีความสำคัญอย่างมากกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน
เนื่องจากหน่วยติดต่อสื่อสารทำให้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น
ๆ รวมถึงการเชื่อมต่อเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ต แบ่งได้ดังนี้
5.1 หน่วยติดต่อสื่อสารที่เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ ไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น
ๆ ประกอบด้วย พอร์ตวีจีเอ พอร์ตดีเอ็มไอ และบลูทูธ
5.2หน่วยติดต่อสื่อสารที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
แบ่งได้ 2 ประเภท
ดังนี้
5.2.1 อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายสัญญาณ
ประกอบไปด้วย การ์ดเน็ตเวิร์ค และโมเด็ม
5.2.2 อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
ซอฟแวร์เป็นชุดคำสั่งที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
ซึ่งการทำงานนั้นมีหลากหลายแตกต่างกันไป สามารถแบ่งประเภทของซอฟแวร์ได้ ดังนี้
1.1 ซอฟแวร์ระบบ
(system software) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์รวมถึงอุปกรณ์ต่าง
ๆ ที่มาพ่วงต่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
1.1.1 ระบบปฏิบัติการ
(operating system: OS) เป็นกลุ่มของโปรแกรมทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และผู้ใช้
1.1.2
โปรแกรมแปลภาษา (complier
and interpreter) เป็นซอฟแวร์ที่ทำหน้าที่แปลภาษาโปรแกรมเมื่อมีการเขียนโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์เข้าใจรหัสคำสั่งที่ป้อนเข้าไป
1.1.3
โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilities
program) เป็นซอฟแวร์ระบบที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น ซอฟแวร์ในกลุ่มของ system
tools
1.2 ซอฟแวร์ประยุกต์
(application software) คือ
ซอฟแวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อประยุกต์กับงานที่ผู้ใช้ต้องการ แบ่งได้ 2
ประเภท ดังนี้
1.2.1
ซอฟแวร์สำเร็จรูป (package
software) เป็นซอฟแวร์ที่สามารถหาซื้อมาใช้งานได้สะดวก
ติดตั้งและทำงานได้ทันที
1.2.2
ซอฟแวร์เฉพาะด้าน
เป็นซอฟแวร์ที่บริษัทซอฟแวร์ทำการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้เฉพาะด้าน
2. แนวโน้มของการใช้ซอฟแวร์ในอนาคต
2.1 การแข่งขันกันทางด้านซอฟแวร์ที่ใช้สำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แบบแท๊บเล็ตจะมีมากยิ่งขึ้น
2.2 ผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แท๊บเล็ตจะทำการดาวน์โหลดซอฟแวร์ต่าง
ๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นสโตร์มากยิ่งขึ้น
2.3 การเข้าใช้งานซอฟแวร์ทำได้หลายทาง
ไม่ว่าจะเป็นซอฟแวร์ที่ติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ โดยตรง
2.4การใช้งานซอฟแวร์ผ่านการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ
(cloud computing) มากยิ่งขึ้น
2.5มีการใช้งานซอฟแวร์ในรูปแบบของบริการมากยิ่งขึ้น
(Software as a Service: SaaS)
2.6จะมีการผสมผสานการใช้งาน
ระหว่างการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆสมาร์ทโฟน และเครือข่ายสังคมออนไลน์
ในการทำงานขององค์กรมากยิ่งขึ้น
การบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์
1.
ทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยผ้าแห้งทุกครั้ง
2.
ต้องทำความสะอาดเครื่องขณะที่ปิดเครื่องเท่านั้น
3.
ในกรณีที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
ควรจัดวางคอมพิวเตอร์ในที่ปลอดโปร่ง ไม่ควรตั้งในมุมอับ
เพราะจะทำให้การระบายความร้อนของพัดลมระบายอากาศทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
4.
ในกรณีที่ใช้สเปรย์
ไม่ควรฉีดน้ำยาลงที่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง
5.
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำและกินของขบเคี้ยวใกล้คอมพิวเตอร์
6.
ในกรณีที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา
ควรจัดหาซอฟต์เคสสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันการกระแทกจากการตกหล่นของเครื่องคอมพิวเตอร์
7.
ยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา
โดยการปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานทุกครั้ง ปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เช่น
ปิดการใช้งานบลูทูธ และปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกครั้งเมื่อหยุดใช้งาน
THE END ^___^


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น